อีซา
อีซา عيسى พระเยซู สันติจงมีแด่ท่าน | |
---|---|
ชื่อ อีซา อิบน์ มัรฺยัม ในภาษาอาหรับ พร้อมกับคำว่าสันติจงมีแด่ท่าน | |
ชื่อจริง | ישוע Yēšūă‘ |
เกิด | 4 ปีก่อนคริสตกาล จูเดีย จักรวรรดิโรมัน |
สาบสูญ | ค.ศ. 30–33 เกทเสมนี เยรูซาเลม จักรวรรดิโรมัน |
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อน | ยะฮ์ยา (ยอห์นผู้ให้บัพติศมา) |
ผู้สืบตำแหน่ง | มุฮัมหมัด |
บิดามารดา | มัรฺยัม (มารีย์) [แม่] |
ญาติ | ยะฮ์ยา (ยอห์นผู้ให้บัพติศมา) ซาการียา (เศคาริยาห์) |
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ศาสนาอิสลาม ประวัติศาสนาอิสลาม | |
พระเป็นเจ้า | |
อัลลอฮ์ | |
ศาสดา | |
มุฮัมมัด | |
การปฏิบัติ | |
ปฎิญานตน · ละหมาด· ศีลอด · ซะกาต · ฮัจญ์ | |
บุคคลสำคัญ | |
มุฮัมมัด · อีซา · มูซา · อิบรอฮีม · นูฮ์ | |
คัมภีร์ | |
อัลกุรอาน · เตารอต · อินญีล · ซะบูร | |
ธรรมนูญและกฎหมาย | |
อัลกุรอาน · ซุนนะฮ์ · ชะรีอะฮ์ · ฟิกฮ์ | |
จุดแยกอะกีดะฮ์ | |
ซุนนี · ชีอะฮ์ | |
สังคมศาสนาอิสลาม | |
เมือง · ปฏิทิน ·มัสยิด· สถาปัตยกรรม · ศิลปะ · บุคคล | |
ดูเพิ่มเติม | |
ญิฮาด · ศัพท์ · หมวดหมู่ศาสนาอิสลาม |
- บทความนี้เป็นทัศนะของอิสลาม ซึ่งแตกต่างจากพระเยซูในทัศนะของคริสต์ศาสนิกชน
อีซา อิบน์ มัรยัม (อาหรับ: عيسى بن مريم; เขียนทับศัพท์: ʿĪsā ibn Maryām "อีซาบุตรนางมัรยัม") คือบุคคลเดียวกันกับ พระเยซู ศาสดาของศาสนาคริสต์ แต่ในคติของศาสนาอิสลาม ถือเป็นเพียงศาสนทูตท่านหนึ่งของอัลลอฮ์[1][2]
ประวัติของนบีอีซา[แก้]
คัมภีร์อัลกุรอาน ได้อธิบายเฉพาะช่วงที่มลาอิกะฮ์ตนหนึ่งจำแลงกายเป็นบุรุษเข้ามาพบกับนางมัรยัมและบอกนางว่า นางจะได้บุตรโดยปราศจากบิดา เมื่อใกล้คลอดให้หนีออกไปคลอดบริเวณชานเมือง ที่โคนต้นอินทผลัม หลังจากคลอดแล้ว พระผู้เป็นเจ้าทรงบันดาลให้มีตาน้ำไหลออกมาให้นางได้ดื่ม เมื่อพาบุตรกลับมาจึงถูกถามและกล่าวหาว่านางได้ผิดประเวณีจนได้บุตรไร้บิดา นางไม่ยอมพูด แต่เด็กนบีอีซาเอ่ยว่า “ ท่านทั้งหลาย ฉันคือบ่าวของอัลลอฮฺ พระองค์ทรงประทานคัมภีร์ให้แก่ฉัน และทรงแต่งตั้งฉันให้เป็นนบี พระองค์ทรงให้ความจำเริญแก่ฉัน พระองค์ทรงสั่งเสียฉันให้ทำการละหมาด จ่ายซะกาต พระองค์ทรงใช้ฉันให้ทำความดีแก่มารดา และแท้จริงอัลลอฮ์คือพระเจ้าของฉัน และพระเจ้าของพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านจงเคารพภักดีพระองค์เถิด ” แต่อย่างไรก็ตามชาวคริสต์แห่งนัจญรอนได้กล่าวว่า นบีอีซาเป็นบุตรของอัลลอฮฺ ส่วนชาวยิวและก็อดยานียฺได้กล่าวว่า นบีอีซามีพ่อชื่อยูซุฟ อันนัจญาร เป็นต้น[3]ปรากฏในซูเราะฮฺมัรยัม
นบีอีซาเป็นบุคคลหนึ่งในเผ่ายูดาห์ของบนีอิสรออีล (หมายถึงท่านได้สืบเชื้อสายจากยะฮูด และอยู่ในตระกูลที่มักจะมีนบีมา) นบีอีซาได้ประกาศเทศนาเชิญชวนสู่อัลลอฮ์ ด้วยการยืนยันว่าท่านยึดในศาสนาดั้งเดิมของบนีอิสรออีล ซึ่งคือศาสนาของท่านนบีมูซา แต่ท่านนะบีอีซามีหน้าที่ในการปรับบทบัญญัติบางส่วนที่มีอยู่ในอัตเตารอต โดยนำอัลอินญีลเป็นคัมภีร์ใหม่สำหรับบะนีอิสรออีล แต่ชาวยิวส่วนมากกลับไม่ยอมรับท่านนบีอีซา ได้ประกาศการปฏิเสธว่าท่านเป็นนบีของชาวบะนีอิสรออีล และกลับไปวางแผนเพื่อฆ่าและร่วมมือกันต่อต้านนะบีใหม่ที่มายังบะนีอิสรออีล ตอนนั้นบะนีอิสรออีลอยู่กับท่านนบีอีซาที่เมืองฟิลิสฏีนซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมัน[4]
เมื่อถึงยุคท่านนบีอีซา ท่านได้เทศนาสู่อีมานอันเที่ยงธรรมเหมือนบรรดานบีทั้งหลาย ยิวและโรมันไม่พอใจ พวกยิวด่าและประณามนบีอีซา แต่ท่านก็ยืนยันในคำบัญชาของอัลลอฮฺที่ต้องเผยแผ่ศาสนา เมื่อพวกยิวไม่ประสบความสำเร็จจึงไปร่วมมือกับโรมัน ชาวยิวซึ่งเป็นเผ่าตระกูลของนบีอีซาประท้วงและทำทุกวิถีทางเพื่อให้นบีอีซาพ้นจากชีวิตพวกเขา กษัตริย์โรมันจึงมีคำสั่งให้ฆ่าท่านนบีอีซาแล้วตรึงบนไม้กางเขน[4]
การเกิดของ นบีอีซา ตามคัมภีร์อัลกุรอาน[แก้]
และจงกล่าวถึง (เรื่องของ) มัรยัมที่อยู่ในคัมภีร์ เมื่อนางได้ปลีกตัวออกจากหมู่ญาติของนาง ไปยังมุมหนึ่งทางตะวันออก (ของบัยตุลมักดิส)
แล้วนางได้ใช้ม่านกั้นให้ห่างพ้นจากพวกเขาแล้ว เราได้ส่งวิญญาณของเรา (ญิบรีล) ไปยังนางแล้ว เขาได้จำแลงตนแก่นาง ให้เป็นชายอย่างสมบูรณ์
นางกล่าวว่า “แท้จริงฉันขอความคุ้มครองต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีให้พ้นจากท่าน หากท่านเป็นผู้ยำเกรง”
เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นเพียงทูตแห่งพระเจ้าของเธอ เพื่อฉันจะให้ลูกชายผู้บริสุทธิ์แก่เธอ”
นางกล่าวว่า “ฉันจะมีลูกได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่มีชายใดมาแตะต้องฉันเลย และฉันก็มิได้เป็นหญิงชั่ว”
เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “กระนั้นก็เถิด พระเจ้าของเธอตรัสว่า มันง่ายสำหรับข้า และเพื่อเราจะทำให้เขาเป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับมนุษย์และเป็นความเมตตาจากเรา และนั่นเป็นกิจการที่ถูกกำหนดไว้แล้ว”
แล้วนางได้ตั้งครรภ์ และนางได้ปลีกตัวออกไปพร้อมกับบุตรในครรภ์ ยังสถานที่ไกลแห่งหนึ่ง
มัรยัม :16-22
ปาฏิหาริย์(มุอฺญิซาต)แห่งนบีอีซา[แก้]
คัมภีร์อัลกุรอานได้ระบุว่า เยซูได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้ง ในจำนวนนั้นคือ การรักษาคนเป็นโรคเรื้อน การชุบชีวิตคนตาย การเรียกสำรับอาหารจากฟ้า และการเป่าก้อนดินเหนียวให้เป็นสัตว์มีปีกบินได้
การจากไปของนบีอีซา[แก้]
การจากไปของนบีอีซา มีทัศนะที่แตกต่างกับในทัศนะของคริสต์ศาสนาอย่างชัดเจน โดยในพระคัมภีร์อัลกุรอาน ได้กล่าวว่าอีซายังไม่ได้ตาย แต่ผู้ที่ถูกตรึงทีไม้กางเขนเป็นผู้อื่น ส่วนพระวรสารนักบุญบารนาบัส ได้ระบุไว้ว่า ผู้ที่ถูกตรึงกางเขนนั้นคือ เยฮูดาห์ โดยในทัศนะของชาวมุสลิม นบีอีซามิได้ถูกฆ่า เพราะในพระคัมภีร์ อัลลอหฺได้กล่าวไว้ว่า[4]
|
||
– อันนิซาอฺ 4:157 |
ชาวมุสลิมเชื่อว่าท่านนบีอีซาไม่ได้ถูกตรึงบนไม้กางเขนเป็นอันขาด แต่เป็นภาพลวงที่เกิดขึ้นสำหรับชาวยิว เพราะยาฮูซาซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านนบีอีซาอกตัญญู ไปบอกที่อยู่ของท่านนบีอีซา ขณะที่ท่านหลบหนีจากยิวและโรมัน จึงมีตำรวจมาจะจับท่านนบีอีซา ปรากฏว่าอัลลอฮฺทำให้หน้าตาและร่างกายของลูกศิษย์ท่านคนนี้ให้เหมือนท่านนบีอีซา ยาฮูซาจึงถูกจับไปโดยเชื่อว่าเป็นนบีอีซา แล้วนำไปประหารชีวิตและตรึงบนไม้กางเขน ในทัศนะของชาวมุสลิมเองก็มีความเชื่อตรงกันกับชาวคริสต์ที่เชื่อว่า นบีอีซาถูกยกไปยังสวรรค์ดังในพระคัมภีร์อัลกุรอาน[4]
|
||
– อันนิซาอฺ 4:158 |
แต่อย่างไรก็ตามมีการสับสนเกี่ยวกับคำศัพท์ในพระคัมภีร์อัลกุรอานว่าก่อนนบีอีซาขึ้นไปสวรรค์ ขณะนบีอีซายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ อิหม่ามอิบนิกะซีรบอกว่ามี 2 ทัศนะ ทัศนะที่มีน้ำหนักมากกว่าสำหรับชาวอะหฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺคือ ท่านนะบีอีซาไม่ตาย และอีกทัศนะหนึ่งจากบรรดานักปราชญ์อิสลามเห็นว่าท่านนะบีอีซาเสียชีวิตก่อนถูกยกขึ้นสวรรค์ ซึ่งในเรื่องนี้นักวิชาการส่วนใหญ่ก็ให้ความหมายว่า ทำให้นอนหลับ-ดูตัฟสีรอิบนุกะษีร[5] โดยในซูเราะฮฺอาละอิมรอน อัลลอฮฺตรัสไว้ว่า[4]
|
||
– ศอด 38:82 |
ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Smith, Cyril Glassé ; introduction by Huston (2001). The new encyclopedia of Islam (Édition révisée. ed.). Walnut Creek, CA: AltaMira Press. p. 239. ISBN 9780759101906.
- ↑ Parrinder, Geoffrey (1996). Jesus in the Quran. Oxford Oneworld. ISBN 1851680942.
- ↑ ترجمات القرآن
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 ชีวประวัติท่านนะบีอีซา อะลัยฮิสสลาม จากบล็อกโอเคเนชัน
- ↑ มูลนิธิอนุรักษ์มรดกอิสลาม